อย่างที่ใครหลายๆคนทราบกันดีกว่า ความรักไม่มีการคาดเดาที่แน่นอนได้ ความรักของใครก็เซนส์ของคนนั้น มีเพียงคนสองนคนเท่านั้นที่รับรู้สถานการณ์ความรักในขณะนั้นได้ บางทีอีกฝ่ายหนึ่งอาจส่งสัญญาณมาตลอด และส่งมาตั้งนานแล้วก็ได้ว่า ความรักครั้งนี้ ไปต่อไม่ได้แล้ว เพียงแต่ต้องการเวลาและโอกาสในการพูดคำว่าเลิกนั่นเอง แล้วสัญญาณอะไรบ้างนะ ที่เขาแสดงออกมาแล้วแปลว่า “คุณกับเขาไปต่อกันไม่ได้แล้ว” มาดูกันเลย สัญญาณเหล่านี้อาจทำให้คุณต้องเตรียมใจเอาไว้บ้างนะ
1.การแสดงความรู้สึกอันจืดชืด
คนรักกัน ต้องมีโมเม้นท์ที่ทำให้ทั้งคู่รู้สึกดี ไม่ต้องถึงขั้นหวานจนมดจับหรอกค่ะ แต่ต้องหมั่นเติมความหวานให้แก่กันและกัน แต่ถ้าอีกฝ่ายหรือแม้แต่ตัวคุณเองมีท่าทีเฉยชา จืดชืดใส่กันทุกสถานการณ์ ไม่สนอะไรใดๆทั้งสิ้น เฉยชากับเรื่องราวของกันและกันแบบกู่ไม่กลับ ต่อให้คุณหรือเขาเจ็บปวดสักแค่ไหน ดูเหมือนว่าคุณและเขาจะไม่สนใจใยดีอะไรเลยทั้งสิ้น นั่นแหละเป็นหนึ่งในสัญญาณที่บ่งบอกแล้วว่า คุณและเขาไปต่อกันไม่ได้ ดังนั้นไม่ต้องฝืนนะคะ ให้มันจบลงแต่เพียงเท่านี้ จะดีกว่า
2.อึดอัดในความสัมพันธ์
ไม่ว่าคุณหรือเขาจะทำอะไร ก็ดูอึดอัดไปหมด จากการกระทำที่เคยทำแล้วมีความสุขร่วมกัน กลายเป็นว่า ทำอะไรก็ดูขาวงหูขวางตาไปซะหมด ทำให้ไม่กล้าทำอะไรสักอย่าง เพราะกลัวอีกฝ่ายจะไม่พอใจ จำเอาไว้เลยนะคะ ว่าหากเจอสถานการณ์อารมณ์ของอีกฝ่ายแบบนี้ ให้รับรู้ไว้เลยว่า ความสัมพันธ์ของคุณทั้งสองมาถึงทางตันแล้ว อย่าได้ฝืนที่จะเดินไปด้วยกันเลยค่ะ เพราะท้ายที่สุดแล้ว มันจะกลายเป็นความเก็บกดสะสม ที่รอวันระเบิดออกมาเท่านั้นเอง
3.ความเห็นไม่ลงรอย
การที่คู่รักมีความเห็นที่ต่างกัน มันเป็นเรื่องธรรมดา และพบได้ในคู่รักทุกเพศทุกวัยเลยค่ะ แต่ถ้าเมื่อไหร่ที่ความเห็นต่างของคุณหรือเขา กลายเป็นเรื่องที่ไร้สาระ เพ้อเจ้อ ให้รู้เอาไวเลยว่านั่นแหละเรียกว่าความเห็นไม่ลงรอย ซึ่งเมื่อความเห็นไม่ลงรอยกันแล้ว จะนำมาสู่การเถียงกันที่ไม่มีใครชอบใคร ไม่มีใครฟังพิจารณาหรือฟังเหตุผลอะไรแล้ว สนใจแล้วว่าใครเถียงได้นานกว่า เสียงดังกว่า คนนั้นแหละคือคนชนะ เอาชนะกันในทางผิดๆ ให้พิจารณาสถานการณ์แบบนี้ให้ดีนะคะ เพราะหากคนรักกันจริงๆ ไม่จำเป็นต้องมานั่งเถียงในเรื่องที่เห็นต่างกัน คู่รักที่ดีจะเข้าหา ค่อยๆคุย และทำความเข้าใจความต่างนั้นอย่างสงบนิ่ง
4.ขุดคุ้ยเรื่องเก่าๆ
การขุดคุ้นเรื่องเก่าๆ เป็นอะไรที่ไม่ควรทำเอามากๆเลยค่ะ เพราะความรักปกติไม่ใช้คดีความอะเนอะ จะมาขุดคุ้ยอะไรให้เยอะแยะ จพเอาไว้เลยนะคะ ถ้าเมื่อใดที่อีกฝ่ายขุดคุ้ยเรื่องเก่าๆของเราขึ้นมาพูด ในทางเสียๆหายๆ ชวนหาเรื่อง ชวนทะเลาะบ่อยๆ แสดงว่าความสัมพันธุ์นั้นกำลังจะยุติลงในไม่ช้า คนรักกันเขาไม่ขุดคุ้ยเรื่องในอดีตออกมาสาดเสียเทเสียใส่กันหรอกจริงไหมคะ มีแต่จะให้อภัยเมื่ออีกฝ่ายพร้อมปรับตัว
5.ให้เวลากันน้อยลง
การให้เวลากับคนรักเป็นสิ่งจำเป็นมากๆเลยค่ะ ไม่ต้องถึงกับต้องอยู่ด้วยกันตลอดเวลาหรอกค่ะ เพียงแค่ถามไถ่สารทุกข์สุขดิบเท่านี้ก็มากมายและเพียงพอแล้ว แต่ถ้าเมื่อไหร่คุณหรือเขามีอาการอยากใช้ชีวิตคนเดียว รู้สึกไม่อยากให้อีกฝ่ายมาวุ่นวายอะไรที่เป็นส่วนตัวเลย ทั้งๆที่บางคู่อาศัยอยู่บ้านเดียวกัน แต่กลับไม่พูดคุย หรือทำกิจกรรมอะไรร่วมกันเลยแม้แต่น้อย ได้เจอหน้ากันจริงๆก็แค่ตอนนอนเท่านั้น นั่นแหละเป็นสัญญาณที่บ่งบอกแล้วว่า อีกนานไม่นานนักคุณกับเขาจะต้องจบลงอย่างไม่มีวันหวนกลับมา
6.มีความลับ
แต่ละคนมีความลับเป็นของตัวเองอยู่แล้ว และเป็นความลับที่ไม่อยากให้ใครล่วงรู้เลยสักคน มันเป็นเรื่องปกตินะคะ หากเราอยากรักษาความลับของตนเองเอาไว้ แต่เมื่อเรามีแฟน บางเรื่อง บางอย่างไม่ควรปิดบังเอาไว้เป็นความลับ ไม่ต้องถึงขนาดบอกทุกอย่างหรอกค่ะ แต่แค่บอกแฟนในสิ่งที่ควรบอกก็เพียงพอแล้ว หากคุณค้นพบว่า อีกฝ่ายหรือแม้แต่ตัวคุณเอง ไม่อยากให้เขาเข้ามาในพื้นที่ความลับใดเลย ให้ตระหนักเอาไว้ว่าจุดจบของความสัมพันธ์กำลังเดินทางมาถึงคามรักครั้งนี้ของคุณแล้ว
7.ไม่ค่อยเปิดตัว
การเป็นแฟนกัน ไม่จำเป็นตัวเปิดตัวบนโซเชียลมีเดียอย่างสม่ำเสมอ แต่ไม่ได้หมายความคุณหรือเขาจะต้องปิดบังความสัมพันธเอาไว้แบบมิดชิด เพราะการให้เกียรติคนรักในอีกแบบหนึ่งที่เป็นสากลนิยม คือ กล้ายอมรับว่าเรากำลังคบกับคนนั้นๆอยู่ ไม่ใช่เลี่ยงที่จะตอบคำถาม หรือปิดบังไม่ให้คนอื่นๆรู้ ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลอะไรก็ตาม การปิดบังว่าคบกันแบบขุดก็ไม่เจอนั่น ให้อนุมานเอาไว้เลยว่า คนรักกำลังคัดกรองเราให้ออกจากชีิวิตของเขาในไม่นานนี้
8.แอบคุยกับคนอื่น
หัวข้อนี้ชัดเจนแน่นอนค่ะ การที่มีแฟนอยู่แล้ว แต่แอบไปคุย พัฒนาความสัมพันธืกับคนอื่นในทางชู้สาว ถือว่าเป็นเรื่องที่แย่มากๆเลยค่ะ และเป็นสิ่งที่ไม่สมควรกระทำนะคะ แฟนไม่ใช่ล้อรถยนต์นะคะที่จะต้องมีสแปร์กัน หากคุณจับได้ว่าแฟนคุยกับคนอื่น อย่างแรกคุณต้องตั้งสติให้ได้นะคะ ไม่ต้องไปโวยวาย ไล่ตี ไล่ด่าใครทั้งนั้น เพราะการกระทำแบบนั้น เป็นการลดคุณค่าในตัวคุณ ให้คุณจับให้ได้คาหนังคาเขา หลังจากนั้นอยู่ที่คุณแล้วล่ะค่ะว่า จะเอายังไงกับความรักครั้งนี้ต่อ แต่ถึงอย่างไร ทางเราอยากให้คุณจำเอาไว้ว่า การให้โอกาสคนๆหนึ่งในฐานะคนรัก ต้องดูให้ดีๆนะคะ ว่าเขากลับมาทำให้ความรักของคนดีขึ้น หรือกลับมาซ้ำเติมแผลเดิมให้กับคุณ
9.ไม่ชัดเจน
ความชัดเจนเป็นเรื่องที่ควรเกิดขึ้นกับความรักของทุกคู่นะคะ ไม่ใช่วันนี้มาหาเรา ปรนนิบัติเราดีเยี่ยมอย่างกับเทวดานางฟ้า แต่กลับทำดีแบบนี้กับใครต่อใครไม่รู้กี่คน เรื่องราวของเขากับคนอื่นหนาหู มีทั้งแบบ Gossip และมีทั้งแบบหลักฐานภาพถ่าย แนะนำว่าถ้าเจอความสัมพันธ์แบบนี้ ให้คุณกล้าทำในสิ่งที่ทำนะคะ นั่นคือเดินออกมาค่ะ ไม่ต้องไปถามเขาแล้วว่าจะเลือกใคร ทำไมต้อให้คนแบบนั้นมีสิทธิ์เลือกด้วยถูกไหมคะ สิ่งที่เขาทำ มันไม่ชัดเจนสักอย่าง ยังไงก็ไปกันไม่รอดหรอกค่ะ ดังนั้นปล่อยให้มันจบแบบหนังสั้นดีกว่าปล่อยให้เป็นหนังยาว ไม่งั้นคุจะเสียเวลากับความรักแบบนี้มากๆเลยนะคะ
10.ชวนทะเลาะกับเรื่องไม่เป็นเรื่อง
เชื่อเลยว่า หลายๆคนที่มีประสบการณ์ความรัก อาจเคยพบเจอกับเหตุการณ์ที่ทำอะไรก็ผิดไปซะหมด เมื่อก่อนทำได้ แต่มาวันนี้ทำก็ผิด ไม่ทำก็ผิด แม้แต่เรื่องเล็กๆน้อย คนรักก็หาเรื่องชวนทะเลาะจนได้ ชวนทะเลาเก่ง ทะเลาทีเอาจริงเอาจัง เหมือนกับคนไม่ได้รักเอาซะเลย คุยกับเขาไปตรงๆเลยค่ะว่า จะเอายังไงกับความรักครั้งนี้ อาจจะต้องเจ็บหน่อย แต่จบ ก็ดีกว่า จะได้ไม่ต้องมาเป็นกังวล หรือเป็นประสาทกับความผิดอะไรก็ไม่รู้ ที่ไม่มีเหตุผล ไม่เมกเซนส์อะไรใดๆทั้งสิ้น
ความรักเป็นเรื่องของคนสอคน ไม่มีใครรู้ดีกว่าคนสองคนที่คบกันแล้วล่ะค่ะ หากเจอสัญญาณแบบที่เรสนำเสนอไปบ่อยๆ หรือเจอแทบจะทุกข้อเลย ให้ตระหนักเอาไว้ว่า ตัวเราเองมีคุณค่าเสมอ การเกิดมาครั้งหนึ่ง เราควรที่จะมีคนรักๆดีๆ ไม่ใช่ต้องมาทนกับคนแย่ๆ ดังนั้นให้ความสัมพันธ์มันจบลงไปแบบดีๆ ดีกว่าจบกันไปแบบไม่เหลืออะไรเลย