อาการอกหัก ตามหลักการจิตวิทยาถือได้ว่าเป็นสภาวะอารมณ์คล้ายกับคนที่ต้องเลิกยาเสพติด จากที่เคยมีกลายเป็นไม่มี ทำให้รู้สึกขาดหายและโหยหา เราอาจจะต้องเริ่มตั้งสติแล้วมองเรื่องนี้ด้วยมุมมองใหม่เกี่ยวกับอาการอกหัก การที่เรามีความสัมพันธ์ไม่ดีกับแฟน ก็เป็นสิ่งที่สะท้อนเตือนให้เราเริ่มเห็นว่า จริง ๆ แล้วเป็นเพราะเราเองที่มีความสัมพันธ์ที่ไม่ดีกับตัวเองอยู่หรือไม่ ถ้าเช่นนั้นการอกหักในครั้งนี้ถือได้ว่าเป็นโอกาสที่ดีที่จะได้เริ่มต้นสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับตัวเอง หรือการเรียนรู้ที่จะหลงรักตัวเอง 10 วิธีต่อไปนี้จะเป็นวิธีที่ช่วยทำให้รู้สึกว่าเรื่องอกหักเป็นเรื่องที่ง่าย ๆ สบาย ๆ เปลี่ยนความรู้สึกที่ไม่ดีเกี่ยวกับการอกหักให้มาเป็นพลังที่ทำให้เราเป็นคนใหม่ในแบบที่เราเป็นตัวเอง และรักตัวเองก่อน
1.ให้เวลาตัวเอง
หากคุณยังเศร้ากับเรื่องนี้อยู่ ก็ให้เวลากับตัวเองอย่าเพิ่งบังคับตัวเองให้เดินหน้าหากใจเรายังไม่พร้อม แค่ฟังความรู้สึกของตัวเองว่ากำลังรู้สึกอะไร มีอารมณ์ไหน และคอยบอกตัวเองว่า การอกหักไม่ใช่เรื่องผิด เป็นเรื่องธรรมดาของโลกนี้ แล้วทุกอย่างจะผ่านไปด้วยดี ให้เชื่อในตัวเองว่าทำได้ แต่ควรให้เวลาตัวเองเศร้าไม่นานเกินไปแค่ 1-2 วันก็ถือว่าเพียงพอ ที่สำคัญไม่ต้องหาเหตุผลว่าทำไมถึงเลิกกัน
2.จัดบ้านใหม่หรือห้องใหม่
การเปลี่ยนสิ่งรอบตัวที่เราอยู่ประจำให้มีสิ่งใหม่ ๆ เข้ามา จัดการทิ้งสิ่งที่ไม่จำเป็นและไม่ต้องการออกไป จัดบ้านแบบใหม่ให้มีแต่สิ่งที่เราชอบ จัดมุมพักผ่อนที่รู้สึกดีและผ่อนคลาย และทำให้บ้านสะอาดน่าอยู่เพียงเท่านี้ก็ช่วยให้เรารู้สึกดีขึ้นได้มากแล้ว
3.ตามใจตัวเองสักวัน
ตั้งงบประมาณในการชอปปิ้งเอาแบบที่จ่ายไหว และทำให้ตัวเองรู้สึกดีมีความสุข จากนั้นก็ออกไปใช้ชีวิต อยากไปเที่ยวไหนซื้ออะไรทำเลย ใช้จ่ายตามงบประมาณที่ตั้งไว้แบบจัดเต็ม
4. ตั้งเป้าหมายสุดเร้าใจ
ลองคิดถึงความฝันที่เราอยากเป็นหรืออยากทำมากที่สุดแต่ยังไม่ได้ลองทำ ลองให้เวลาตัวเองแล้วคิดดูว่ามีอะไรบ้างที่อยากทำ มีอะไรบ้างที่อยากเป็น อยากพัฒนาตัวเองเกี่ยวเรื่องอะไร อยากเป็นคนใหม่แบบไหน ตั้งเป้าหมายให้ใหญ่ ๆ เอาแบบที่เราอยากได้จริง ๆ เพราะว่าการตั้งเป้าหมายใหญ่นั้นมีพลังอย่างมาก ให้ลองคิดดูว่าเมื่อเราทำตามเป้าหมายได้สำเร็จจะเกิดรู้สึกตื่นเต้นอะไรบ้าง แค่นี้ก็ตื่นเต้นแล้วใช่ไหมคะ วางแผนจัดตารางชีวิตใหม่ ทั้งแบบระยะยาวประมาณ 10 ปีข้างหน้า ระยะกลาง 3-5 ปีข้างหน้า และระยะสั้นประมาณ 1-3 เดือนข้างหน้าว่ากิจกรรมของชีวิตแต่ละวันหรือแต่ละช่วงควรทำอะไรบ้าง จากนั้นก็ไปใช้ชีวิต และแต่ละสัปดาห์หาเวลากลับมาทบทวนเป้าหมายที่วางไว้อยู่เสมอ
5.หาเวลาพัฒนาตัวเอง
ลองลงเรียนคอร์สพัฒนาตัวเองสัก 1-2 คอร์ส เพื่อให้มีเรื่องราวอื่น ๆ ได้โฟกัสหรือได้เปลี่ยนเรื่องคิด ออกไปพบเจอเพื่อนใหม่ ๆ ถ้าให้ดีควรจะมีคอร์สที่เกี่ยวกับเป้าหมายที่เราได้วางแผนไว้ การออกไปเรียนรู้พัฒนาตัวเองจะช่วยให้เราได้พบเจอคนที่มีเป้าหมายใหญ่กว่า แล้วจะได้แรงบันดาลใจชั้นดีที่ทำให้เราเข้าใกล้เป้าหมายมากยิ่งขึ้น
6.ชมตัวเองหน้ากระจกตอนเช้าทุกวัน
นอนให้เต็มอิ่ม เมื่อตื่นขึ้นมาให้เดินไปที่กระจกชมตัวเองในสิ่งที่เราอยากเป็น สวัสดีคนสวย ฉันชอบเธอนะ ผิวของเธอสวยมาก ผมของเธอทำไมสวยอย่างนี้ หน้าตาแบบนี้ต้องเป็นคนเก่งแน่นอน ฉลาดสุด ๆ ทำอย่างนี้ทุกวันตอนเช้า เพราะว่าการชมตัวเองเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีในการสร้างความสัมพันธ์กับตัวเอง และช่วยให้เป็นการเริ่มต้นวันด้วยความรู้สึกที่ดี ๆ
7.การทำสมาธิก่อนนอน
นั่งสมาธิหรือสวดมนต์ก่อนนอน 15 นาที เพื่อฝึกสมองให้หยุดคิดเรื่องต่าง ๆ ในชีวิตประจำวัน ฝึกปล่อยวางทุกอย่างให้เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติโดยที่เราไม่ต้องควบคุมเพราะว่าหมดเวลาควบคุมแล้วนี่คือ เวลาพักผ่อน ให้ร่างกายและจิตใจได้พักอย่างเต็มที่ การทำสมาธิจะช่วยให้เรากลายเป็นคนที่รู้จักปล่อยวาง หยุดความคิดฟุ้งซ่านเรื่องต่าง ๆ ได้ง่ายขึ้น ซึ่งช่วยให้เรามีสุขภาพจิตที่ดี
8.รู้จักและเข้าใจความรู้สึกของตัวเอง
ในช่วงแรกให้ลองสังเกตความรู้สึกของตัวเอง แค่รับรู้ ยังไม่ต้องแก้ไขอะไร เรียนรู้และเข้าใจความรู้สึกตัวเองยังไม่ต้องบังคับความรู้สึกตัวเอง ถ้าเราทำสมาธิได้ดีทุกวัน เราจะค่อยเรียนรู้วิธีเปลี่ยนความรู้สึกตัวเองจากความรู้สึกไม่ดีเป็นความรู้สึกที่ดี เช่น การหยุดคิดแล้วอยู่กับหายใจของตัวเอง หรือการมีสมาธิอยู่กับงานที่ทำจะช่วยให้เราหลุดจากความรู้สึกที่ไม่ดีต่าง ๆ ได้ง่ายขึ้น และแทนที่ด้วยความรู้สึกที่ดี ถ้าเราเรียนรู้ รู้จักและเข้าใจความรู้สึกของตัวเอง เราก็จะเป็นคนอารมณ์ดีได้อย่างง่าย ๆ
9.มีงานอดิเรกหรือของสะสม
การมีงานอดิเรกหรือของสะสมที่เป็นสิ่งที่เราชอบและหลงไหล ซึ่งเป็นการพักผ่อนหย่อนใจที่ดี การได้อยู่กับสิ่งที่รักและชอบทำให้เกิดความเพลิดเพลิน ช่วยให้จิตใจสงบได้มากขึ้น เป็นการดึงความสนใจจากสิ่งต่าง ๆ ในชีวิตประจำวันของเรา เหมือนเป็นการให้รางวัลตัวเอง การไปพบปะสังสรรค์กับกลุ่มคนที่สนใจในเรื่องเดียวกัน ได้ใช้เวลาแบ่งปันเรื่องราวที่สนใจร่วมกันหรือมีกิจกรรมร่วมกัน เช่น การนำของสะสมไปเข้าร่วมเดินสายประกวดในที่ต่าง ๆ ก็เป็นโอกาสที่ดีได้พบเจอเพื่อนใหม่ ๆ ที่สนใจในเรื่องเดียวกัน
10.ดูแลร่างกายและสุขภาพ
การนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ รับประทานอาหารที่ดีต่อสุขภาพ และการออกกำลังกายอยู่เป็นประจำ สิ่งเหล่านี้เป็นพื้นฐานที่สำคัญจะช่วยให้กลไกต่าง ๆ ในร่างกายสามารถทำงานได้เป็นปกติ ถ้ามีร่างกายที่มีสุขภาพแข็งแรงก็จะส่งผลดีต่อสุขภาพจิตอย่างแน่นอน
และนี่คิอ 10 วิธีแก้อกหักยังไงให้มูฟออน แท้จริงแล้ววิธีการแก้อาการอกหักหรือการสูญเสียนั้นบางครั้งดูเหมือนยาก แต่จริง ๆ แล้วแค่ทำตัวให้ยุ่งมาก ๆ เหมือนไม่มีเวลาให้แฟน ด้วยการหากิจกรรมต่าง ๆ ทำแทนที่เวลาที่เคยมีแฟนหรือคนรักอยู่ หาเป้าหมายใหม่ เปลี่ยนตัวเองจากภายในให้เป็นคนใหม่ที่เติบโตยิ่งขึ้น ถ้าทำให้ตัวเราเองหลงรักตัวเองได้ จนมีรู้สึกว่าเชื่อมั่นและศรัทธาในตัวเอง คิดบวกกับตัวเอง เราก็จะรู้และเข้าใจว่าเราควรรักคนอื่นอย่างไร แต่ที่สำคัญเราต้องรักตัวเองให้เป็นก่อน