คนเป็นแฟนกัน และหากใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันทุกวันมาหลายปี จะสังเกตเห็นได้ทันทีเลยหากคนรักของเราเปลี่ยนไป โดยเฉพาะในกรณีที่ึคนรักของเราไปมีคนอื่น แต่มันอยู่ที่ว่าคุณจะกล้าหูตาตื่นยอมรับความจริงกัลสิ่งที่เกิดขึ้นหรือไม่ก็เท่านั้นเอง ลองสังเกต 10 พิรุธต่อไปนี้ดูนะคะ ว่าคนรักของคุณเข้าข่ายมีคนอื่นหรือเปล่า
1.ระแวงเมื่อคุณเข้าใกล้โทรศัพท์
หากเมื่อก่อนคุณสามารถจับมือแฟนของคุณได้ โดยที่เขาไม่มีท่าทีต่อต้าน หรือระแวงใดๆ แสดงว่าเขายังไม่ได้มีคนอื่น แต่เมื่อไหร่ที่คุณเพียงแค่ขยับเข้ามาใกล้เขาขณะที่เขากำลังวุ่นวายกับหน้าจอมือถืออยู่ และเขาแสดงท่าทีตกใจ หรือถอยห่างแบบผิดสังเกต หรือไม่ก็เปลี่ยนหน้าต่างบนมือถือด้วยความไวแสง บอกเลยว่าคุณต้องเผื่อใจเอาไว้สัก 70 เปอร์เซ็นต์นะคะ เพราะอาการแบบนั้นแสดงว่าเขากำลังซ่อนแชทของใครบางคนเอาไว้ และหากยิ่งมือถือมีการล็อคทุกแอปพลิเคชั่น ทำใจไว้ได้เลยค่ะ
2.คว่ำหน้าจอโทรศัพท์ตลอด
แอปพลิเคชั่นในการสนทนามีเยอะมากในสมัยปัจจุบัน แต่ละแอปพลิเคชั่นต่างมีฟังก์ชั่นต่างๆมากมาย แต่ที่หนีไม่พ้นสักเท่าไหร่เลย ก็คือ ฟังก์ชั่นแชทแบบส่วนตัว โทรเสียง และโทรวิดีโอ แต่ขอบอกเลยว่าไม่ใช่ทุกแอปพลิเคชั่นที่จะสามารถตั้งค่าปิดเสียง บล็อคสายที่โทรเข้ามาได้นะคะ เพราะบางแอปพลิเคชั่นนั้นไม่สามารถทำได้จริงๆ และการที่เขาวางมือถือแบบคว่ำจอลง ให้อนุมานเอาเลยว่าเขาอยากซ่อนสายใครบางคนจากสายตาคุณ
3.หงุดหงิดกับคุณง่ายขึ้น
แต่ก่อนแต่ไรคุยกันด้วยเหตุผลเสมอ พยายามเข้ากันและพูดจากันด้วยถ้อยคำดีๆ แต่มาวันนี้แฟนชอบหงุดหงิดใส่ ทำอะไรนิดหน่อยกลับตอกย้ำ ซ้ำด่าทอ อาการแบบนี้หาเรื่องเลิก 100 เปอร์เซ็นต์เลยค่ะ เพราะว่าอะไรนะหรอ ก็เพราะว่าต้องการจะหาเรื่องทะเลาะและนำมาซึ่งการเลิกราในที่สุดนั่นเอง หลังจากเลิกกับคุณได้ไม่กี่วัน ลองสังเกตดูนะคะเขาอาจจะเปิดตัวคนใหม่ทันทีเลยก็เป็นได้ เพราะว่าคุยซ้อน คบซ้อนมาโดยตลอด
4.เอาโทรศัพท์เข้าห้องน้ำนาน
ถ้าเกิดแฟนคุณเป็นคนที่เข้าห้องน้ำใช้เวลาไม่นานนักในช่วงก่อนหน้า แต่มาหลังๆแฟนคุณเข้าไปทำธุระในห้องน้ำนานเหลือเกิน จนคิดว่าคงจะตกส้วมไปแล้ว บอกเลยว่าร้อยทั้งร้อยของคนที่กำลังนอกใจแฟน จะชอบนำโทรศัพท์เข้าห้องตอนทำธุระส่วนตัว หรือบางครั้งอาจจะเข้าไปทำธุระส่วนตัวทิพย์ก็ได้ แต่ในความเป็นจริงแล้ว แฟนของคุณกำลังแชทกับคนอื่นอยู่ค่ะ เขาเลือกที่จะแชทในห้องน้ำ เพราะห้องน้ำคือสถานที่ส่วนตัว และคงไม่มีใครตามไปดูแฟนตัว เมื่อแฟนบอกว่าเข้าไปธุระส่วนตัวหรอกใช่ไหมคะ นั่นแหละจึงเป็นเหตุผลที่ทำให้เขาปลอดภัยที่สุดแล้ว สำหรับการโดนจับได้
5.บ่ายเบี่ยงเรื่องแต่งงาน
แรกๆรักกันปานจะกลืนกิน บอกจะแต่งงานด้วยอย่างโน้นอย่างนี้ พออยู่ไปนานๆ ความหวานก็เหมือนเดิม ไม่ได้จางหายไปสักเท่าไหร่ แต่พักหลังๆไม่ค่อยพูดถึงเรื่องแต่งงานอะไรเลย หรือแม้แต่หากคุณเป็นฝ่ายเปิดประเด็น เขามักจะเลี่ยงและบ่ายเบี่ยงเรื่องแต่งงานเสมอ ให้จำเอาไว้ว่าสิ่งที่ทำให้เขาไม่อยากแต่งงานกับเรา ไม่ใช่เพราะตัวเรานะคะ เพราะหากเป็นเพราะตัวเราจริงๆ ปัญหาดังกล่าวมันคงเกิดขึ้นมานานแล้ว แต่นี่ผ่านมาหลายปีแล้วเพิ่งมาเป็น ให้คิดเอาไว้เลยว่าเป็นเพราะคนอื่นเข้ามาทำให้เขาเปลี่ยนไป
6.ไม่อยากสร้างอะไรร่วมกัน
เมื่อก่อนวาดฝันเอาไว้อย่างดีมีสเต็ป ฝันว่าจะสร้างบ้าน สร้างธุรกิจ มีลูกมีเต้าด้วยกัน แต่นานวันไปกลับกลายเป็นคนละคน ไม่อยากสร้างอะไรร่วมเลย ทั้งๆที่อยู่ด้วยกันมานานแล้ว แบบนี้ชัดแล้วค่ะว่า เขากำลังทุ่มเทกำลังกายและสร้างอนาคตกับคนอื่น เพราะมันไม่มีเหตุผลอะไรที่จะทำให้คนที่อยู่ด้วยกันมานาน เปลี่ยนแปรความคิดไปได้แบบหน้ามือเป็นหลังมือ เว้นซะว่าเขาอยากไปสร้างให้กับอีกคนที่เข้ามา
7.อ้างงาน
แฟนทำงานที่เดิม ตำแหน่งเดิม กับบุคลาการเดิมๆ แต่ช่วงหลังมานี่วิถีการทำงานของแฟนแปลกๆไป เช่น กลับบ้านช้ากว่าปกติบ่อยๆ พอโทรไปถามด้วยความเป็นห่วง มักจะอ้างเสมอว่ากำลังทำงาน งานยุ่ง มีประชุมด่วน ถ้ามันเป็นบ่อยจนผิดสังเกต อย่าคิดเข้าข้างตัวเองต่อไปเลยนะคะ เพราะนี่คือพิรุธที่ทำให้รู้ว่าแฟนของคุณกำลังปันใจปันเวลาให้กับคนอื่น
8.แต่งองค์ทรงเครื่อง
หากแฟนของคุณเป็นคนที่ไม่ได้มีความพิถีพิถันเรื่องการแต่งตัวมากนัก ตลอดระยะเวลาที่คบกับคุณ เขามักจะแต่งตัวสบายๆ ไม่ได้แต่งเติมอะไรเป็นพิเศษ และหากวันหนึ่งเขาลุกขึ้นมาแต่งตัวให้ตัวเองดูดีขึ้น รู้เอาไว้เลยนะคะ ว่าเขากำลังทำเหมือนตอนแรกๆที่กำลังจีบกับคุณ เพียงแค่ตอนนี้เขาไปทำกับคนอื่นๆ เพื่อสร้างความประทับใจให้กับตัวละครลับนั่นเอง
9.เงินเก็บน้อยลง
ช่วงที่ต้องจีบกันใหม่ๆ เป็นช่วงที่ต้องเร่งทำความประทับให้อีกฝ่าย บางคนอาจใช้วิธีในการสร้างความประทับใจที่แตกต่างกันไป แต่ที่แน่ๆความประทับใจที่อยากจะสร้างขึ้นนั้น ล้วนต้องใช้เม็ดเงินอัดฉีดทั้งนั้น ไม่มีอะไรที่ได้มาโดยไม่ต้องใช้ ให้สังเกตว่าแฟนของคุณมีค่าใช้เงินมากขึ้น เงินเก็บน้อยลง โดยที่คุณไม่เคยเห็นของเป็นชิ้นเป็นอันหรือเปล่า ถ้าเป็นอย่างนั้น หันหลังให้กับคนแบบนี้เลยค่ะ เพราะเขาเอาเงินไปเปย์คนอื่นทั้งนั้น
10.เก็บหลักฐาน
ถ้าโดยปกติแฟนของคุณเป็นคนที่ทำอะไรไม่ได้เนี๊ยบมาตั้งแต่แรก ไม่ว่าจะเรื่องของการนำของออกจากกระเป๋ากางเกง รถที่ปล่อยให้รถจนแทบจะไม่ใช่รถ คุณเองก็ทั้งบ่นทั้งเตือนว่าให้เก็บของให้เข้าที่เข้าทางมาตลอด แต่เขากลับไม่ยอมเปลี่ยนตัวเองเลยแม้แต่หนเดียว จู่ๆวันหนึ่งเขากลับมาจัดรถอย่างดี เก็บขยะทุกชิ้นออกจากรถ นั่นไม่ได้แปลว่าเขาสำนึกกับสิ่งที่คุณพูดนะคะ มันแปลว่าเขามีคนอื่น เลยอยากเก็บกวาดหลักฐานให้สิ้นซากก็เท่านั้นเอง
ถ้าเขามีพิรุธ สิ่งที่คุณต้องทำคือ จับให้ได้คาหนังคาเขา จากนั้นก็ซัดให้ตรงประเด็นไปเลยค่ะ จะเลิกก็เลิกให้มันรู้แล้วรู้รอดไปเลย อย่าปล่อยให้เขามาทำแบบนี้กับชีวิตของคุณ คุณเองก็มีค่า มีจิตใจ มีความรู้สึก การที่เขาทำแบบนี้เท่ากับเขาเหยียบเรือสองแคมค่ะ เลิกซะให้ขาดกันไปเลยจะดีกว่า